Love is All Around.. ความรักอยู่รอบตัวเรา
แท้จริงแล้ว มีความรักที่อยู่รอบตัวเราเสมอตลอดเวลา หากเราเปิดใจเพื่อสัมผัสความรักนั้น ความรักจะเติมเต็มจิตใจของเรา ความรักนั้นมีหลายรูปแบบ แต่ในคำบรรยายนี้จะศึกษาถึงรูปแบบความรักที่อยู่รอบตัวเรา 3 ประการ คือ รักแรกเริ่ม รักเพิ่มพูน และ รักนิรันดร์
1. รักแรกเริ่ม : ความรักของครอบครัว (Family's love)
ความรักแรกเริ่มนั้นเริ่มต้นที่ "ครอบครัว" ตั้งแต่วันที่พ่อและแม่รู้ว่าเราได้ปฏิสนธิขึ้นในครรภ์ วันนั้นเป็นวันเริ่มต้นที่เราได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่ ความรักของพ่อแม่นั้นปรารถนาจะให้ลูกได้รับสิ่งดีเสมอ (มัทธิว 7: 9-11)
![]() ภาพจาก rcowen.com | ความรักของครอบครัวยังรวมไปถึงความรักของลูกที่มีต่อพ่อแม่ และความรักของพี่น้องที่มีต่อกัน พระคัมภีร์สอนให้ลูกแสดงความรักเคารพและให้เกียรติพ่อแม่ สอนให้พี่และน้องช่วยเหลือกันและกัน รวมทั้งสอนให้เราดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัว (1ทิโมธี 5:4) 1ทิโมธี 5: 4 ถ้าแม่ม่ายคนใดมีลูกหลาน ก็ให้ลูกหลานนั้นหัดปฏิบัติหน้าที่ทางศาสนา โดยปฏิบัติกับครอบครัวของตนก่อน และให้ตอบแทนคุณบิดามารดา เพราะว่าการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ไม่เพียงเท่านั้น พระคัมภีร์ยังกล่าวถึง "ความรักระหว่างสามีและภรรยา" โดยสอนให้สามีรักภรรยาของตนเหมือนดังพระคริสต์ทรงรักคริสตจักร ขณะเดียวกันก็สอนให้ภรรยาเชื่อฟังและให้เกียรติสามีของตน (เอเฟซัส 5:25, 28,33) เอเฟซัส 5:33 ถึงอย่างไรก็ดี ท่านทุกคนจงต่างก็รักภรรยาของตนเหมือนรักตนเอง และภรรยาจงยำเกรงสามีของตน |
2. รักเพิ่มพูน : ความรักของมิตรสหาย (Friends' love)
ความรักทุกประเภทสามารถเพิ่มพูนขึ้นได้ตามวันเวลา และตามที่เราเห็นคุณค่าของความรักนั้น เราดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมซึ่งประกอบด้วยคนที่หลากหลาย แม้แต่ละคนจะมาจากสภาพพื้นภูมิหลังที่แตกต่างกัน แต่เราก็สามารถมีความรักฉันมิตรสหายต่อกันได้ เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งผู้ให้และเป็นผู้รับความรักจากคนรอบข้างด้วยความจริงใจ
พระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรัก และพระองค์ทรงสอนคริสเตียนให้หยิบยื่นความรักแก่ทุกคนในโลก
§ ให้ทำดีต่อคนทั้งปวง (กาลาเทีย 6:10)
§ ให้รักเพื่อนบ้านของเรา (มาระโก 12:31)
§ ให้แสดงความรักและเมตตาต่อคนที่ยากลำบากหรือขัดสนกว่าเรา เช่น คนต่างด้าว ลูกกำพร้า แม่ม่าย (เฉลยธรรมบัญญัติ 24:19-21)
§ ให้กระทำดีแม้กระทั่งต่อคนที่คิดร้ายกับเรา (1 เปโตร 3:9)
นอกจากนี้ พระคัมภีร์ยังให้เคล็ดลับที่เราจะมี "รักที่เพิ่มพูน" ได้เสมอตลอดเวลา ด้วยการเรียนรู้ที่จะรักตามแบบพระคัมภีร์
1 โครินธ์ 13:4-7 ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง
เมื่อเรามีลักษณะชีวิตและความตั้งใจที่ จะรักผู้อื่นตามแบบพระคัมภีร์ คริสตจักรก็จะกลายเป็นชุมชนที่มีความรักห่วงใยกันอย่างแท้จริง และคนทั้งปวงจะรู้ว่า เราเป็นสาวกของพระเจ้า
ยอห์น 13:34-35 เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลาย คือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น ถ้าเจ้าทั้งหลายรักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้ได้ว่า เจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา
3. รักนิรันดร์ : ความรักของพระเจ้า (God's love)
ความรักของมนุษย์มีข้อจำกัด หลายครั้งมนุษย์จึงล้มเหลวที่จะแสดงความรัก แต่ความรักของพระเจ้านั้นสมบูรณ์แบบและสูงส่ง เป็นความรักที่มั่นคงและล้ำลึกเกินกว่าความเข้าใจของมนุษย์ (สดุดี 103:11)
ความรักของพระเจ้านั้นแสดงออกมาเป็นการกระทำที่ชัดเจน โดยการที่พระเจ้าทรงสละพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อลบบาปของเราทั้งหลาย
1 ยอห์น 4: 9-10 โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราทั้งหลาย คือ พระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้มิใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา ทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา
โรม 5:8 แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา

นี่คือความรักอัศจรรย์ของพระเจ้าที่มีต่อเรา พระองค์ทรงรักเราโดยไม่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์ และยุติธรรม พระเจ้าจำเป็นต้องพิพากษามนุษย์ตามการกระทำดีชั่วของเขาบนโลกนี้ ไม่มีมนุษย์คนใดเลยที่ไม่เคยกระทำบาป ดังนั้น ทุกคนต้องรับผิดชอบความบาปผิดของตน ซึ่งพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า "ค่าจ้างของความบาปคือความตาย"
พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความยุติธรรมและความรัก จึงสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อรับโทษบาปแทนมนุษย์ทุกคน เพื่อผดุงไว้ทั้งความยุติธรรม และเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นจากการพิพากษา บุคคลที่เปิดใจรับความรักของพระเจ้า ด้วยการยอมรับการไถ่โทษบาปนั้น ก็จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์และได้รับชีวิตนิรันดร์
ยอห์น 3:16 เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์
สรุป
ความรักคือพลังยิ่งใหญ่ในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ทุกคน ผู้ที่สัมผัสว่ามีความรักอยู่รอบตัวเรา เราก็จะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ขอให้เราเป็นผู้ที่หยิบยื่นความรักและมิตรภาพที่ดีให้แก่คนรอบข้าง และขอให้เราเปิดใจรับความรักเข้ามาในใจ ไม่ว่าจะเป็นความรักของครอบครัว ความรักฉันมิตรสหาย และความรักของพระเจ้า เพื่อเราจะได้รับสันติสุขไม่เพียงแต่บนโลกนี้ แต่นิรันดร
อาจลองติดตาม นิยามความรักดีๆ ช่วงเดือนกุมภาฯ 2010 นี้ได้ ตาม link นี้
ตอบลบhttp://hopeofbangkok.com/