ลักษณะคริสตจักรแห่งการฟื้นฟูในยุคสุดท้าย ตอนที่ 2 : โยเอล 2: 6-9
พระธรรมโยเอลใช้ภาพเปรียบเทียบว่า คริสตจักรแห่งการฟื้นฟูในยุคสุดท้าย จะเป็นดังกองทัพที่มีประสิทธิภาพและน่าสะพรึงกลัว เหมือนดังกองทัพตั๊กแตนที่พุ่งเป้าเข้าไปทำลายศัตรูอย่างกล้าหาญ
1 มีความกล้าหาญ (ยอล.2:7ก)
กองทัพของพระเจ้าจะวิ่งเหมือน "ทหาร" และปีนกำแพงเหมือน "นักรบ" ซึ่งต้องแสดงถึงความกล้าหาญ และทำให้คู่ต่อสู้นั้นหวาดกลัวตั้งแต่ยังไม่ทันรบ พระเจ้าทรงปรารถนาให้คนของพระเจ้ามีความกล้าหาญ และความกล้าหาญนั้นเป็นผลของความเชื่อ หากเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่และครอบครองอยู่ เราจะกล้าหาญในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า (ยชว.1:9)
2 มีความรับผิดชอบในหน้าที่ (ยอล.2:7ข)
กองทัพของพระเจ้า "ต่างก็เดินไปตามทางของตัว" แสดงให้เห็นถึง "ความรับผิดชอบ" แสดงออกเป็นการเชื่อฟังและกระทำตามบทบาทหน้าที่ของตนตามที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้อย่างดีเลิศ พระเจ้าทรงประทานพระมหาบัญชาให้แก่ผู้เชื่อทุกคน เราจึงต้องรับผิดชอบในการประกาศข่าวประเสริฐและสั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ (มธ.28:19-20) รวมทั้งต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด
3 มีระเบียบวินัย (ยอล.2:7ค)
กองทัพของพระเจ้า "ไม่แตกแถวออกไป" เพราะเป็นกองทัพที่มีระเบียบวินัย คริสตจักรต้องมีความรับผิดชอบและรักษาวินัยอย่างดี เพราะเราจะสามารถเกิดผลได้ต้องมีวินัยในชีวิต (สภษ.5:23) การแสดงออกอย่างหนึ่งของการมีวินัย คือ การนบนอบเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา (2ทธ.2:3-4) ผู้รับใช้ของพระเจ้าควรจดจ่อและเชื่อฟังในสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกให้เรากระทำ เพื่อจะเป็นทหารที่ดีของพระเยซูคริสต์
4 มีความมั่นคงในการทรงเรียก (ยอล.2:8ก)
คริสตจักรต้องเป็นดังกองทัพที่ทุกคนมี "ความมั่นคงในจิตใจภายใน" ต่อการทรงเรียกของพระเจ้า สมาชิกทุกคนจะรู้การทรงเรียกของตน และมีความมั่นคงปลอดภัยในการทรงเรียกจากพระเจ้า ในคริสตจักร จึงไม่มีความอิจฉาริษยา และไม่ต้องไปแย่งชิงดีชิงเด่นกับคนอื่น เพื่อให้ตนเองรู้สึกมีค่ามากขึ้น แต่ ทุกคนจะถ่อมใจต่อกันและกัน ให้เกียรติเชื่อฟังบุคคลที่เป็นของประทานพระคริสต์ที่พระเจ้าทรงประทานให้ เป็นของขวัญเพื่อเสริมสร้างคริสตจักรของพระองค์ (อฟ.4:11) และจะรับใช้ตามของประทานความสามารถของตนอย่างเต็มที่ (1คร.12:11)
5 ไม่มีใครจะยับยั้งได้ (ยอล.2:8ข)
คริสตจักรจะเป็นดังกองทัพที่ศัตรูไม่สามารถจะยับยั้งได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค ความยากลำบากหรือแม้กระทั่งความตายก็ไม่สามารถหยุดยั้งคริสตจักรได้
มัทธิว 16:18
ฝ่ายเราบอกท่านว่า ท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้
เหมือนดังคริสเตียนในยุคแรกที่เผชิญการ กดขี่ข่มเหง หรือคริสเตียนจำนวนมากในยุคปัจจุบันที่เผชิญความยากลำบาก แต่ก็ไม่เลิกราในการติดตามพระเจ้า ในทางตรงข้าม กลับดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อและความชื่นชมยินดี ไม่หยุดยั้งที่จะประกาศข่าวประเสริฐต่อไป (กจ. 5: 41-42, กจ.20:24)
6 มีอิทธิพลอย่างสูง (ยอล.2:9)
ในยุคสุดท้าย พระเจ้าจะทรงใช้คริสตจักรของพระองค์ให้มีอิทธิพลอย่างสูงในทุกระดับของชุมชน ไม่ว่าเป็นระดับเมือง หรือระดับครอบครัว คริสตจักรของพระเจ้าจะนำพระพรแห่งพระคุณความรักของพระเจ้าไปสู่ทุกครัวเรือน ไปสู่ทุกสถาบันในสังคม คนจำนวนมากจะแสวงหาพระเจ้าและปรารถนาจะรู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้แต่องค์เดียว เหมือนดังภาพคำพยากรณ์ในพระธรรมเศคาริยาห์
เศคาริยาห์ 8:20-23
20 "พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า ชนชาติทั้งหลายยังจะมา คือประชาชนที่ยังอาศัยอยู่ในหัวเมืองอันมากมาย
21 ชาวเมืองหนึ่งจะไปหาชาวเมืองอีกเมืองหนึ่ง กล่าวว่า 'ให้เราไปกันทันที ไปทูลขอพระกรุณาต่อพระเจ้าและแสวงหาพระเจ้าจอมโยธา ข้าพเจ้าก็จะไป'
22 เออ ชนชาติทั้งหลายเป็นอันมาก และบรรดาประชาชาติที่เข้มแข็งจะมาแสวงหาพระเจ้าจอมโยธาในเยรูซาเล็ม และทูลขอพระกรุณาต่อพระเจ้า
23 พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า ในสมัยนั้นสิบคนจากประชาชาติทุกๆภาษา จะยึดชายเสื้อคลุมของยิวคนหนึ่งไว้แล้วกล่าวว่า 'ขอให้เราไปกับท่านทั้งหลายเถิด เพราะเราได้ยินว่า พระเจ้าทรงสถิตกับพวกท่าน'
ผู้เชื่อทุกคนจึงควรปรารถนาที่จะมีอิทธิพลที่ดีต่อคนรอบข้าง มีความรักห่วงใยคนอื่นอย่างจริงใจ ที่ภาระใจในการประกาศข่าวประเสริฐ เพื่อคนอีกจำนวนมากจะได้รับพระคุณความรักของพระเจ้าเช่นเดียวกับที่เราได้รับแล้ว

ภาพจาก www.terradaily.com
ใน ยอล.2:6-9 บรรยายถึงลักษณะของคริสตจักรอีกประการหนึ่งคือ เป็น "คริสตจักรที่ศัตรูหวาดกลัว" ซึ่งมี 6 ประการย่อย ดังนี้
1 มีความกล้าหาญ (ยอล.2:7ก)
กองทัพของพระเจ้าจะวิ่งเหมือน "ทหาร" และปีนกำแพงเหมือน "นักรบ" ซึ่งต้องแสดงถึงความกล้าหาญ และทำให้คู่ต่อสู้นั้นหวาดกลัวตั้งแต่ยังไม่ทันรบ พระเจ้าทรงปรารถนาให้คนของพระเจ้ามีความกล้าหาญ และความกล้าหาญนั้นเป็นผลของความเชื่อ หากเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่และครอบครองอยู่ เราจะกล้าหาญในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า (ยชว.1:9)
2 มีความรับผิดชอบในหน้าที่ (ยอล.2:7ข)
กองทัพของพระเจ้า "ต่างก็เดินไปตามทางของตัว" แสดงให้เห็นถึง "ความรับผิดชอบ" แสดงออกเป็นการเชื่อฟังและกระทำตามบทบาทหน้าที่ของตนตามที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้อย่างดีเลิศ พระเจ้าทรงประทานพระมหาบัญชาให้แก่ผู้เชื่อทุกคน เราจึงต้องรับผิดชอบในการประกาศข่าวประเสริฐและสั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ (มธ.28:19-20) รวมทั้งต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด
3 มีระเบียบวินัย (ยอล.2:7ค)
กองทัพของพระเจ้า "ไม่แตกแถวออกไป" เพราะเป็นกองทัพที่มีระเบียบวินัย คริสตจักรต้องมีความรับผิดชอบและรักษาวินัยอย่างดี เพราะเราจะสามารถเกิดผลได้ต้องมีวินัยในชีวิต (สภษ.5:23) การแสดงออกอย่างหนึ่งของการมีวินัย คือ การนบนอบเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา (2ทธ.2:3-4) ผู้รับใช้ของพระเจ้าควรจดจ่อและเชื่อฟังในสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกให้เรากระทำ เพื่อจะเป็นทหารที่ดีของพระเยซูคริสต์
4 มีความมั่นคงในการทรงเรียก (ยอล.2:8ก)
คริสตจักรต้องเป็นดังกองทัพที่ทุกคนมี "ความมั่นคงในจิตใจภายใน" ต่อการทรงเรียกของพระเจ้า สมาชิกทุกคนจะรู้การทรงเรียกของตน และมีความมั่นคงปลอดภัยในการทรงเรียกจากพระเจ้า ในคริสตจักร จึงไม่มีความอิจฉาริษยา และไม่ต้องไปแย่งชิงดีชิงเด่นกับคนอื่น เพื่อให้ตนเองรู้สึกมีค่ามากขึ้น แต่ ทุกคนจะถ่อมใจต่อกันและกัน ให้เกียรติเชื่อฟังบุคคลที่เป็นของประทานพระคริสต์ที่พระเจ้าทรงประทานให้ เป็นของขวัญเพื่อเสริมสร้างคริสตจักรของพระองค์ (อฟ.4:11) และจะรับใช้ตามของประทานความสามารถของตนอย่างเต็มที่ (1คร.12:11)
5 ไม่มีใครจะยับยั้งได้ (ยอล.2:8ข)
คริสตจักรจะเป็นดังกองทัพที่ศัตรูไม่สามารถจะยับยั้งได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค ความยากลำบากหรือแม้กระทั่งความตายก็ไม่สามารถหยุดยั้งคริสตจักรได้
มัทธิว 16:18
ฝ่ายเราบอกท่านว่า ท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้
เหมือนดังคริสเตียนในยุคแรกที่เผชิญการ กดขี่ข่มเหง หรือคริสเตียนจำนวนมากในยุคปัจจุบันที่เผชิญความยากลำบาก แต่ก็ไม่เลิกราในการติดตามพระเจ้า ในทางตรงข้าม กลับดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อและความชื่นชมยินดี ไม่หยุดยั้งที่จะประกาศข่าวประเสริฐต่อไป (กจ. 5: 41-42, กจ.20:24)
6 มีอิทธิพลอย่างสูง (ยอล.2:9)
ในยุคสุดท้าย พระเจ้าจะทรงใช้คริสตจักรของพระองค์ให้มีอิทธิพลอย่างสูงในทุกระดับของชุมชน ไม่ว่าเป็นระดับเมือง หรือระดับครอบครัว คริสตจักรของพระเจ้าจะนำพระพรแห่งพระคุณความรักของพระเจ้าไปสู่ทุกครัวเรือน ไปสู่ทุกสถาบันในสังคม คนจำนวนมากจะแสวงหาพระเจ้าและปรารถนาจะรู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้แต่องค์เดียว เหมือนดังภาพคำพยากรณ์ในพระธรรมเศคาริยาห์
เศคาริยาห์ 8:20-23
20 "พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า ชนชาติทั้งหลายยังจะมา คือประชาชนที่ยังอาศัยอยู่ในหัวเมืองอันมากมาย
21 ชาวเมืองหนึ่งจะไปหาชาวเมืองอีกเมืองหนึ่ง กล่าวว่า 'ให้เราไปกันทันที ไปทูลขอพระกรุณาต่อพระเจ้าและแสวงหาพระเจ้าจอมโยธา ข้าพเจ้าก็จะไป'
22 เออ ชนชาติทั้งหลายเป็นอันมาก และบรรดาประชาชาติที่เข้มแข็งจะมาแสวงหาพระเจ้าจอมโยธาในเยรูซาเล็ม และทูลขอพระกรุณาต่อพระเจ้า
23 พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า ในสมัยนั้นสิบคนจากประชาชาติทุกๆภาษา จะยึดชายเสื้อคลุมของยิวคนหนึ่งไว้แล้วกล่าวว่า 'ขอให้เราไปกับท่านทั้งหลายเถิด เพราะเราได้ยินว่า พระเจ้าทรงสถิตกับพวกท่าน'
ผู้เชื่อทุกคนจึงควรปรารถนาที่จะมีอิทธิพลที่ดีต่อคนรอบข้าง มีความรักห่วงใยคนอื่นอย่างจริงใจ ที่ภาระใจในการประกาศข่าวประเสริฐ เพื่อคนอีกจำนวนมากจะได้รับพระคุณความรักของพระเจ้าเช่นเดียวกับที่เราได้รับแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น